แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาเก็บชัยชนะได้ตามฟอร์มแชมป์อีกครั้ง ด้วยประตูที่ 100 และ 101 ในสีเสื้อปีศาจแดงของเวย์น รูนี่ย์ ตามด้วยอีก 1 ประตูจากดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ และประตูแรกในทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ของไมเคิล โอเว่น ปิดท้ายด้วยลูกฟรีคิกสุดสวยของนานี่ ช่วยให้แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะวีแกนได้ในสนาม ดีดับเบิ้ลยู ถึง 5 – 0
ในขณะที่ช่วงครึ่งแรกทั้งสองทีมต่างก็ทำประตูกันไม่ได้ แต่ในช่วงครึ่งหลังเริ่มเกมได้เพียง 10 นาทีแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูแรกขึ้นนำ และจากนั้นอีก 4 ประตูก็ไหลตามมาเรื่อยๆ อย่างสบาย ในขณะที่โอเว่นที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังก็ทำประตูแรกให้ทีมได้เช่นกัน ช่วยลบฝันร้ายในคืนที่พ่ายต่อเบิร์นลีย์ ให้กับแฟนๆ ได้เป็นอย่างดี
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปลี่ยนตัวผู้เล่นจากเกมที่พ่ายเบิร์นลีย์ นัดกลางสัปดาห์ถึง 7 ตำแหน่ง ทั้งการส่งแกรี่ เนวิลล์ และเนมานย่า วิดิช ลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกในฤดูกาลนี้ และให้นานี่, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, พอล สโคลส์ และอันโตนิโอ วาเลนเซีย เล่นในแดนกลาง ส่วนแนวรุกให้เบอร์บาตอฟ ยืนคู่กับรูนี่ย์
เกมดูเหมือนจะไปได้สวยตั้งแต่เริ่ม จากลูกยิงของดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ แต่ทีมเจ้าบ้านก็ยังไม่เสียประตูจากการเข้าบล็อคของติตัส บรัมเบิ้ล
อีก 4 นาทีถัดมา เฟล็ตเชอร์ ได้จ่ายบอลให้กับเบอร์บาตอฟ และเขาก็ตอกลูกส้นต่อให้กับพอล สโคลส์ ได้ยิงจากในกรอบเขตโทษแต่บอลก็เหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นในนาทีที่ 17 และ 18 รูนี่ย์ก็ได้สับไกยิงถึง 2 ครั้ง แต่ทีมเจ้าบ้านก็ป้องกันไว้ได้ทั้ง 2 ครั้ง
เกมผ่านไปได้ครึ่งทางของครึ่งแรกทีมเจ้าบ้านก็เริ่มเล่นได้ดีขึ้น และเริ่มมีโอกาสทำประตูบ้าง ซึ่งทำให้วิดิช และเอฟร่า ต้องตื่นตัวเพื่อป้องกันลูกไม่ให้เป็นประตู จากนั้นนาทีที่ 25 เบน ฟอสเตอร์ ก็ต้องออกแรงเซฟลูกยิงของเจสัน คูมาส
จากนั้น จอนนี่ อีแวนส์ ก็ได้โอกาสเปิดบอลยาวให้กับเวย์น รูนี่ย์ ได้ยิงแต่คริส เคิร์กแลนด์ ก็ป้องกันไว้ได้ แม้จะมีโอกาสทำประตูบ่อยครั้งแต่แมนฯ ยูไนเต็ดก็ยังไม่ได้ประตูเพราะจังหวะสุดท้ายยังจบสกอร์ไม่ดีพอ จนกระทั่งจบครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันอยู่ 0 – 0

เริ่มครึ่งหลังอันโตนิโอ วาเลนเซีย อดีตนักเตะวีแกน ก็ได้รับเสียงโห่จากแฟนทีมเก่าของเขาหลังจากการเข้าปะทะกับ เมย์เนอร์ ฟิเกรัว แต่เมื่อถึงนาทีที่ 55 เขาก็ทำให้เสียงโห่ไล่ต้องเงียบกริบเมื่อเขาเปิดบอลงามๆ เข้ากลางให้รูนี่ย์ได้โหม่งเต็มๆ บอลลอยเข้าประตูไป แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำ 1 – 0 และประตูนี้ก็เป็นประตูที่ 100 ของเวย์น รูนี่ย์ ในนามขุนพลปีศาจแดงด้วย
เมื่อได้ประตูขึ้นนำ แฟนๆ ทีมปีศาจแดงที่เดินทางมาเชียร์ทีมรักกว่า 5 พันคนก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ดังยิ่งขึ้น แต่ก็เกือบต้องเงียบลงเช่นกันเมื่ออีก 2 นาทีถัดมา ฮิวโก้ โรดัลเลก้า ได้โหม่ง บอลทำท่าจะลอยมุดใต้คานเข้าประตู แต่เบน ฟอสเตอร์ ก็กระโดดปัดบอลออกไปได้จากเส้นประตู แมนฯ ยูไนเต็ด รอดพ้นการเสียประตูไปอย่างหวุดหวิด
แต่อีกเพียงไม่ถึง 1 นาทีแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูที่ 2 เมื่อสโคลส์เปิดบอลงามๆ ให้เบอร์บาตอฟ ได้ดีดบอลหลบเคิร์กแลนด์ ที่วิ่งออกมาป้องกัน ก่อนที่จะยิงบอลกระดอนลงพื้น และเข้าประตูไปอย่างสวยงาม แมนฯ ยูไนเต็ดนำ 2 – 0

จากนั้นประตูของแมนฯ ยูไนเต็ด ก็เริ่มตามมาเรื่อยๆ ในนาทีที่ 65 รูนี่ย์ได้บอลทางฝั่งซ้ายของกรอบเขตโทษ ก่อนจะเขาก็เลี้ยงบอลตัดเข้ากลาง และบรรจงยิงด้วยเท้าขวา บอลแฉลบ มาริโอ เมลชอต เล็กน้อยก่อนที่จะผ่านมือเคิร์กแลนด์ เข้าประตูไป
เกมส่วนใหญ่เป็นของทีมเยือน และนั่นก็ทำให้เซอร์ อเล็กซ์ มั่นใจแล้วว่าทีมจะเก็บ 3 แต้มในนัดนี้แน่นอน นาทีที่ 70 แมนฯ ยูไนเต็ดเปลี่ยนตัวผู้เล่นทีเดียวพร้อมกัน 3 คนโดยส่งไมเคิล โอเว่น, ดาร์รอน กิ๊บสัน และจอห์น โอเชีย ลงเล่นแทนเวย์น รูนี่ย์, พอล สโคลส์ และจอนนี่ อีแวนส์
ลงสนามมาได้เพียง 4 นาทีดาร์รอน กิ๊บสัน ก็ได้โอกาสยิงไกล แต่คริส เคิร์กแลนด์ ก็ป้องกันไว้ได้
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงครองเกมบุกไว้ได้อย่างต่อเนื่อง และในนาทีที่ 85 ประตูแรกของโอเว่นก็มาถึง เมื่อนานี่จ่ายบอลทะลุช่องมาให้โอเว่น ที่วิ่งสอดขึ้นมาตรงกรอบเขตโทษ ก่อนที่เขาจะยิงด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งไปชนเสาแล้วกระดอนเข้าไปตุงตาข่าย แมนฯ ยูไนเต็ด 4 วีแกน 0
แฟนทีมแมนฯ ยูไนเต็ด โห่ร้องด้วยความดีใจหลังจากที่ฮีโร่คนใหม่ของพวกเขาทำประตูได้ และเสียงโห่ร้องก็ดังยิ่งกว่าเมื่อนานี่ ยิงประตูปิดท้ายให้แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จากลูกยิงฟรีคิกสุดสวยในระยะ 25 หลา บอลข้ามกำแพงพุ่งเข้าประตูไปแบบที่เคิร์กแลนด์ แทบไม่ได้ขยับตัว จบเกมแมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะวีแกน ได้อย่างท่วมท้น 5 – 0 (บรรยายเกมโดย โอปอล)
รายชื่อผู้เล่น
วีแกน แอธเลติก
คริส เคิร์กแลนด์ 1
ติตัส บรัมเบิ้ล 19
พอล ชาร์เนอร์ 7 ( น.90)
เมย์เนอร์ ฟิเกรัว 31
มาริโอ เมลชอต 25
โมฮาเหม็ด ดิอาเม่ 27
เฮนดรี้ย์ โธมัส 6
จอร์ดี้ โกเมซ 15
เจสัน คูมัส 10
ชาร์ลส เอ็นซอคเบีย 14
ฮิวโก้ โรดัลเลก้า 20 ( น.76)
สำรอง
ไมเคิล พอลลิตต์ 12
มาร์ลอน คิง 30
เอ็มเมอร์สัน บอยซ์ 17
เอริค เอ็ดแมน 3
สกอตต์ ซินแคลร์ 16 น.63 เจสัน คูมัส 10
เจสัน สกอตแลนด์ 9 น.73 ชาร์ลส เอ็นซอคเบีย 14
เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์ 24 น.74 โมฮาเหม็ด ดิอาเม่ 27
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เบน ฟอสเตอร์ 12
จอนนี่ อีแวนส์ 23
เนมานย่า วิดิช 15
ปาทริซ เอฟร่า 3 ( น.49)
แกรี่ เนวิลล์ 2
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
พอล สโคลส์ 18 ( น.19)
หลุยส์ นานี่ 17 ( น.90)
อันโตนิโอ วาเลนเซีย 25
ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ 9 ( น.58)
เวย์น รูนี่ย์ 10 ( น.56, 65)
สำรอง
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
จอห์น โอเชีย 22 น.72 จอนนี่ อีแวนส์ 23
ไมเคิล โอเว่น 7 ( น.85)น.72 เวย์น รูนี่ย์ 10
ไรอัน กิ๊กส์ 11
ดาร์รอน กิ๊บสัน 28 น.72 พอล สโคลส์ 18
แดนนี่ เวลเบ็ค 19
ฟาบิโอ ดา ซิลวา 20
สถิติของเกม
วีแกน แอธเลติก ประตู 0, ยิงตรงกรอบ 5, ยิงหลุดกรอบ 6, โดนบล็อค 6, เตะมุม 3, ฟาวล์ 11, ล้ำหน้า 0, ใบเหลือง 2, การครองบอล 48.8%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 5, ยิงตรงกรอบ 11, ยิงหลุดกรอบ 3, โดนบล็อค 5, เตะมุม 5, ฟาวล์ 9, ล้ำหน้า 4, ใบเหลือง 2, การครองบอล 51.2%
คะแนนความสามารถ
วีแกน แอธเลติก คริส เคิร์กแลนด์ 6, ติตัส บรัมเบิ้ล 7, พอล ชาร์เนอร์ 6, เมย์เนอร์ ฟิเกรัว 5, มาริโอ เมลชอต 6, โมฮาเหม็ด ดิอาเม่ 6, เฮนดรี้ย์ โธมัส 5, จอร์ดี้ โกเมซ 6, เจสัน คูมัส 6, ชาร์ลส เอ็นซอคเบีย 6, ฮิวโก้ โรดัลเลก้า 6
สำรอง สกอตต์ ซินแคลร์ 6, เจสัน สกอตแลนด์ 6, เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์ 5
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบน ฟอสเตอร์ 7, จอนนี่ อีแวนส์ 7, เนมานย่า วิดิช 8, ปาทริซ เอฟร่า 6, แกรี่ เนวิลล์ 7, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 9, พอล สโคลส์ 7, หลุยส์ นานี่ 8, อันโตนิโอ วาเลนเซีย 7, ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ 8, เวย์น รูนี่ย์ 9
สำรอง จอห์น โอเชีย 6, ไมเคิล โอเว่น 8, ดาร์รอน กิ๊บสัน 7
Por